ชิบุยะที่เป็นแหล่งขับเคลื่อนแฟชั่นสไตล์ญี่ปุ่นและวัฒนธรรมนั้นและได้ได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นอิมเมจของโตเกียว และทางห้าแยกก็ได้ทำให้รู้สึกถึงโตเกียวที่ขับเคลื่อนอยู่เสมอ
เมื่อลองกางประวัติศาสตร์ของชิบุยะออกดูในช่วงยุดเอโดะนั้นคือหมู่บ้านเกษตรกรรมที่อยู่ห่างออกไปจากเอโดะ
หลังจากนั้นที่พักอาศัยของซามุไรได้เกิดขึ้นโดยอยู่บนเนิน
และที่มิยามะสุซะกะกับโมโตะฮิโระโอะเป็นหมู่บ้านที่พ่อค้าได้ทำขยายนาข้าวอยู่ตรงพื้นที่ต่ำ กลายเป็นพื้นที่ที่มีหลากหลายด้าน ตามจำนวนประชากรที่มากขึ้นพื้นที่นาก็กลายเป็นสถานที่อยู่อาศัยและเมืองก็ถูกปรับรูปร่างไปเรื่อยๆในช่วงที่ชิบุยะพัฒนาขึ้นมากก็ได้ถือกำเนิด "สถานีชิบุยะ" รถไฟญี่ปุ่นในปี 1885 หลังจากนั้นก็มีการเพิ่มสายรถไฟอีกมากมายหลายสายจึงเพิ่มแรงกระตุ้นให้เป็นสถานีปลายทาง
ในย่านชิบุยะที่มีความสะดวกสบายอย่างมากแห่งนี้มีสร้างตึกอาคารระฟ้า การเปิดห้างร้านค้าและมหาวิทยาลัยขึ้นและกลายเป็นแหล่งรวมของผู้คนมากมายและวัยรุ่นขึ้นมา
การเปิดห้าง「เซบุ สาขาชิบุยะ」นั้นเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นในปี 1968 ค่ะ และประวัติศาสตร์ดังกล่าวก็ได้ผ่านเลยมามากกว่าครึ่งศตวรรษ
ตั้งแต่ยุคที่เปิดทางเซบุได้มุ่งมั่นในด้านนวัตกรรมและก่อสร้างให้ชิบุยะเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์แบบใหม่ค่ะ
"เซบุสาขาชิบุยะ" ที่เปิดห้างในปี 1968 ได้นำเข้าแบรนด์ต่างประเทศอย่าง Hermes และ SAINT LAURENT
ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ถ่ายทอดงานของดีไซน์เนอร์ญี่ปุ่นมากมายที่ได้รับการเรียกขานว่า "DC Brand" และการสร้าง "แคปซูล" ร้านขายซีเล็คช้อปในตำนาน เป็นต้น ทาง ข้อมูลจากห้าง "เซบุสาขาชิบุยะ"
ที่ได้ผจญภัยมามากมายนั้นได้รับความสนใจจากทั่วประเทศญี่ปุ่น
ทั้งในปี 1986 ได้เปิดให้บริการตึก SEED มาก่อนที่จะเป็นตึก Movida ในปัจจุบัน การสร้างพื้นที่จำหน่ายสินค้าที่ร่วม collaboration กับดีไซเนอร์หน้าใหม่มาแรงทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ และช่วงปี 87 นั้นก็มีการสร้างอาคาร LOFT "เครื่องใช้ในบ้าน" ที่แผ่ขยายไปทั่วประเทศในปัจจุบัน
ตั้งแต่ยุค 80 เป็นต้นมาได้ทำการแสดงงานศิลปะสมัยใหม่และการค้าขายอย่างเต็มที่มากขึ้น ไม่เพียงแต่ศิลปะแบบดั้งเดิมหรือศิลปินที่มีชื่อเสียงเท่านั้นแต่ยังได้ค้นพบศิลปินหนุ่มสาวในยุคของพวกเขาเหล่านั้นอีกด้วย
ห้าง "เซบุสาขาชิบุยะ" จะคอยนำพาผู้คนมากมายไปยังชิบุยะและจะคอยสร้างหนทางของผู้คนต่อไปเรื่อยๆ